เมื่อว่างก็จัดให้ เพราะรอบที่แล้วเราก็น่าจะเข้าใจบางส่วนของผิวกันไปบ้างแล้ว ในเรื่องของผิวรูปแบบต่างๆที่สามารถที่จะแยกออกมาได้มากมาย ซึ่งเอาจริงๆตอนที่แล้วก็เพียงแค่คร่าวๆในเรื่องของผิวหน้า ซึ่งมั่นใจเลยว่ามีสาวๆหลายคนที่พยายามที่จะลองไปมองหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผิว แต่บอกไว้ก่อนว่าบางคนก็อาจจะหาไม่ได้ หรือว่าไม่มีเวลา ไม่ต้องกังวลเพราะจะรวบรวมเอาไว้ให้เอง

แต่ว่าก่อนอื่นจากที่ไปสืบทราบมา ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นวัยไหนๆก็รักที่จะดูแลผิวหน้ามากที่สุด ในส่วนของสาวๆวัยรุ่น วัยทำงาน ข้อมูลหรือวิธีดูแลอาจจะพอหากันมาได้บ้าง แต่ถ้าหากว่าเป็นสาวๆรุ่นใหญ่จะทำยังไง ถาหากว่าได้ไปอ่านบทความก่อนหน้านี้ จะเห็นในเรื่องของผิวผู้ใหญ่ ที่หลายๆคนอาจจะยังสงสัย

โดยในเรื่องของผิวผู้ใหญ่ ถ้าหากว่าใครที่รู้ลึกหรือเคยลองหาวิธีการดูแลกันมาบ้างอาจจะเจอในเรื่องของคำศัพท์ว่า “MATURE SKIN” ซึึ่งก็เป็นอีกหนึ่งคำที่หมายถึงผิวผู้ใหญ่นั่นแหละ และบอกไว้ก่อนเลยว่าถ้ามาหาข้อมูลผิวผู้ใหญ่แบบไทยๆ หายากมากเรียกว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ แต่ลองไปหาคำว่า MATURE SKIN ดูสิ พบผลลัพธ์ไม่น่าเชื่อเลยบอกเอาไว้ก่อน แต่ก็อาจจะวุ่นวายถ้าใครไม่เก่งภาษาอังกฤษจริงๆอ่ะนะ เพราะถึงแปลมาก็อาจจะต้องมานั่งทำความเข้าใจกันใหม่อยู่ดี

เอางี้เพื่อความง่ายต่อการทำความเข้าใจกับคำว่า MATURE SKIN หรือผิวผู้ใหญ่ ก็อธิบายให้เข้าใจกันได้ง่ายๆ ว่าผิวผู้ใหญ่ โดยเช่นเดียวกับที่บอกไปในบทความที่แล้ว นั่นก็คือหมายถึงผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ภายในตัวบำรุงก็มักจะถูกเติมมอยดจอร์ไรเซอร์ โดยสำหรับผู้หญิงที่มีผิวแบบMATURE SKIN จะถูกนิยามว่าเป็นผู้หญิงสูงอายุที่มีผิวแห้ง

เอ้า!!!สงสัยกันไหมละว่า MATURE SKIN กับ ผิวแห้ง มันจะไปแตกต่างกันอย่างไร

ไม่แตกต่าง!? แน่นอนว่าที่อ่านไม่ผิดหรอก ก็มันไม่แตกต่างจริงๆนะ เพราะคำว่า MATURE SKIN ถูกกำหนดขึ้นมาจากพวกอุตสาหกรรมด้านเครื่องสำอางค์และครีมบำรุงผิว จริงๆแล้วการที่เป็นผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ขึ้นไป ก็สามารถที่จะเป็นผิวแห้งได้ง่ายๆ แต่ถึงจะเป็นง่ายๆ ก็ใช่ว่าจะไปเป็นสะทุกคน

อย่างหนึ่งที่อาจจะไม่ทำให้ผู้หญิงผิวแห้งไปสะทุกคน คือ เกิดจากในเรื่องของกรรมพันธุ์ หรือถ้าหากว่ากรรมพันธุ์ไม่มีผล งั้นก็อาจจะปัจจัยสภาพแวดล้อมแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้งกังวลว่า 50 แล้วจะเป็นผิวแห้ง เพราะสาววัย 50 หลายๆคนก็มีผิวหน้ารูปแบบอื่นๆ เอาเป็นว่าถ้าอยากที่จะบำรุงผิว หรือ เลือกซื้อครีมที่เหมาะสำหรับการบำรุงดูแลผิวหน้า แนะนำเอาไว้ก่อนว่าเลือกตามผิวตัวเองดีที่สุด ไม่ต้องไปลือกซื้อแบบ MATURE SKIN หรอก ถ้าหากว่า 50 แล้ว ผิวหน้าไม่ได้เป็นไปอย่างที่นิยามบอกเอาตรงๆนะ เปลืองเงินฟรี

ออกนอกทะเลไปไกล มีอีกเรื่องหนึ่งสำหรับสาวๆที่ต้องการดูแลผิวก็ต้องทราบ ปัจจัยสภาพแวดล้อมที่ส่งผล อย่างที่บอกไปเมื่อกี้ จริงๆแล้วเปอร์เซนต์ความเป็นไปได้เทียบเท่ากับในเรื่องของกรรมพันธุ์เลยทีเดียว ในเรื่องของสภาพแวดล้อมที่สามารถส่งผลได้ มักจะเกิดจากมลพิษ หรือ มลภาวะต่างๆ แต่ต้องทำความเข้าใจในเรื่องของมลพิษก่อน

เพราะไปพูดถึงในเรื่องของมลพิษ เชื่อเลยว่าที่นึกออกส่วนใหญ่ก็เป็นควันของรถต่างๆ จะบอกให้ว่ามลพิษเป็นเพียงคำจำกัดความสั้นๆ จะเรียกว่าเป็นเซต ที่ภายในมีสับเซตเป็นสิบเลยก้ว่าได้ และแน่นอนว่ามีอีกหนึ่งสิ่งที่อยู่ในเซตมลพิษ ที่ส่งผลทำลายล้างแบบจัดเต็ม แสงแดด อย่างที่เข้าใจกันดีว่า ศัตรูสำคัญของผิวหน้า เพราะในแสงแดดมี รังสียูวี ที่อันตรายและสร้างปัญหามากมายให้เกิดขึ้นกับผิวหน้า

ยังมีหลายๆคนที่เถียงว่าไม่กลัว คิดผิด บอกคำนี้เลย เพราะสาวส่วนใหญ่มักจะเถียงว่าวันทั้งวันอยู่แต่ในอาคาร ไม่ค่อยได้ออกไปกลางแจ้ง ผิวหน้าไม่เสียหรอก บอกเลยว่าแม้อยู่ในอาคารผิวหน้าก็พังได้ เพราะนับเป็น 90% ที่รังสียูวี สามารถที่จะทะลุผ่านกระจกเข้ามาได้ ถือเป็นเรื่องจริงนะบอกไว้ก่อน

แต่ที่บอกสาวๆออฟฟิศเอาไว้ก่อน เพราะเชื่อไหม มีหลายคนไม่บำรุงและไม่ใช้ครีมที่มีSPF เพราะนึกว่าไม่เป็นอะไร แนะนำว่าทางที่ดี ถึงแม้จะอยู่แต่ในตัวอาคารก็หน้าพังได้ แต่จริงๆยังมีมลพิษอื่นที่ส่งผลอีกมากมาย รวมไปถึงอีกหนึ่งสิ่งที่สาวๆมักเข้าใจผิดเกี่ยวการใช้งานของคอมพิวเตอร์ที่ส่งผลเสียกับผิวหน้า

เอาไว้มาจะมาเฉลยรอบหน้าแล้วกันนะ เพราะเวลาของตอนนี้ไม่พอจริงๆ อ๋อ…เตือนไว้อีกเรื่องหนึ่งว่ามลพิษยังมีอีกมากมาย และส่งผลได้เยอะเช่นกัน ก็แนะนำว่าทางที่ดีควรจะรู้จักป้องกันเอาไว้ก่อน แต่ไว้เดี๋ยวจะมาบอกในเรื่องของเทคนิคการดูแลเด็ดๆ ที่สาวๆหรือคุณผู้หญิงอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว เราสามารถที่จะใช้เทคนิคเหล่านี้มาช่วย และในเรื่องของพฤติกรรมการใช้ชีวิต สาเหตุส่งผลหลักๆ เอาไว้รอบหน้าเดี๋ยวมาต่อเติมให้อีก

ช้าๆได้พร้าเล่มงามนะสาวๆ บ๊ายบาย