อยากผิวสวย แต่ไม่ชอบทานผักผลไม้ทำอย่างไรดี ???

บรรดาคุณสาวๆล้อมวงมาทางนี้ เรามีเรื่องจะบอกเอาเป็นว่าต่อจากตอนที่แล้วก็แล้วกันเนอะ แหม!!!แนะนำวิธีดูแลผิวไปมากมาย ได้ไปทำตามกันบ้างหรือป่าวเนี่ย แต่จริงๆแล้ววิธีเหล่านั้นอาจะต้องมีการปรับในเรื่องของพฤติกรรมการใช้ชีวิตกันเอาไว้บ้าง

แต่เอาเป็นว่าในเรื่องของพฤติกรรมมันก็ต้องครอบคลุมไปในทุกๆเรื่องใช่ไหมละ เพราะฉะนั้นมีเรื่องทานอาหารก็ถือเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่มีความสำคัญเหมือนกันนั่นแหละ แต่ว่าถ้าให้คอยมานั่งแนะนำมีสาวๆหลายคนก็คงจะไม่เชื่อใช่ไหมล่ะ งั้นเอาเป็นว่าเราจะแชร์ประสบการณ์ในด้านของการทานอาหารเพื่อบำรุงผิวให้สวยงามก็แล้วกัน

ก็ถ้าหากว่าลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งหมดดูดีแล้วแต่ว่ายังไม่ได้ช่วยได้มากนั้น การเลิือกทานก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน แหมแต่ของกินในโลกก็มีมากมายแล้วจะไปเลือกทานอะไรดี ไม่ต้องกังวลเอาเป็นว่าเราจะแนะนำสิ่งที่สามารถรับประทานเข้าไปแล้วได้ผลสำหรับการบำรุงผิวจริงๆก็แล้วกัน

ผักผลไม้ตัวดี ช่วยให้ผิวสวยใสอย่างแน่นอน!!!

จริงๆแล้วหลายๆคนก็อาจะไม่ชื่นชอบในการับประทานผักผลไม้ หลายคนก็อาจะบอกว่ามันอร่อยแต่สำหรับคนที่ไม่ชอบด้วยนะว่าเป็นปัญหาเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นแล้วการที่จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินหรือสารอาหารจากผักผลไม้เหล่านี้ก็ถือเป็นการลดโอกาสลงไปด้วยเช่นกัน แหะๆเอาจริงๆเราก็เข้าใจความรู้สึกนี้ดีพอสมควร เพราะเราก็เป็นหนึ่งคนที่ไม่ชอบทานผักและผลไม้

แต่เอาเป็นว่าเราก็ยังอยากจะแนะนำอยู่ดี เพราะในปัจจุบันเราก็เริ่มหันมาปรับตัวในการทานผักผลไม้ได้มากยิ่งขึ้น ไม่ต้องสงสัยหรือกังวลอะไรหรอกเพราะเทคนิคที่ง่ายมากที่สุดที่จะช่วยให้สาวๆที่ไม่ชื่นชอบในการทานผักผลไม้สามารถที่จะทานสิ่งเหล่านี้ได้ดีมากยิ่งขึ้นก็คือ

มิกซ์แอนด์แมทช์ สร้างประสบการณ์การดื่มที่ดี!?!?

เอาจริงๆนะไม่ต้องกังวลไปหรอก มั่นใจว่าที่บ้านก็จะต้องมีเครื่องปั่นกันอยู่บ้างใช่ไหมล่ะ งั้นก็เลือกผลไม้ที่สามารถที่จะช่วยในการบำรุงดูแลผิวพรณทั้งหมดให้เข้าด้วยกัน แน่นอนพอบอกว่าปั่นหลายๆคนอาจะกลัว แต่บอกเลยว่าขอให้รอเพราะเราก็ทำมาแล้ว เอาจริงๆนะเราปั่นทั้งผักและผลไม้นั่นแหละ เพราะวิธีงั้นก็ทำให้คนที่ไม่ชอบทานผักผลไม้สามารถที่จะรับประทานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

แต่ส่วนใหญ่ที่เราจะเอามาปั่นให้เข้ากันเราก็อาจะดูสูตรมาจากหลายๆที่เพื่อที่จะเอามาปั่นให้ได้รสชาติที่ดีมากพอที่เราจะดื่มได้ โดยอาจจะมีการใส่ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ หรืออาจะผสมผักเข้าไปด้วยอย่างแครอท หรือผักอื่นๆอีกมากมายที่สามารถเอามาปั่นให้เข้ากันได้

อย่างที่บอกว่าไม่ต้องคอยไปนั่งกังวลเรื่องรถชาติหรอก เพราะเอาจริงๆนะการที่ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารจากผักและผลไม้เหล่านี้สามารถที่จะทำให้ผิวดีขึ้น เรากล้ารับประกันนะเพราะตอนแรกก่อนที่เราจะทำน้ำผักผลไม้เหล่านี้ดื่ม ผิวของเราแย่มากทั้งแห้ง แล้วก็ที่สำคัญก็ยังมีปัญหาผิวอื่นๆตามมา แต่ตั้งแต่เรามาดื่มน้ำผักผลไม้มากยิ่งขึ้นก็ทำให้ผิวของเราชุ่มชื้นแล้วก็หมดปัญหาผิวไปได้เยอะพอสมควร

เพราะฉะนั้นแนะนำไว้เลยว่าการเลือกดื่มเครื่องดื่มที่เป็นน้ำผักผลไม้สามารถที่จะดื่มในตอนเช้าของทุกๆวัน เพื่อที่จะให้ร่างกายนั้นดูดสารอาหารเหล่านี้ไปใช้งานได้ง่ายๆ เราก็อาจจะดื่มแค่ช่วงเช้าเพียงแค่ครั้งเดียวก็ได้ถ้าหากว่าใครไม่ชอบ แต่เราบอกเลยว่าตั้งแต่เราหันมาดื่มน้ำผักผลไม้ไม่ใช่แค่เพียงในเรื่องของผิวเท่านั้นที่ดีขึ้น

ในเรื่องของสุขภาพของเราก็ดีมากขึ้นด้วยเหมือนกันแหละ ทำให้ร่างกายเราสดชื่นมากยิ่งขึ้นแล้วก็ยังมีผลดีอื่นอื่นๆตามมามากมายจริงๆจะให้เรามานั่งอธิบายก็คงบอกได้ไม่หมด เพราะฉะนั้นหากว่าสาวๆอยากมีผิวพรรณที่สวยเปล่งต่างๆและก็มีสุขภาพที่ดีแนะนำว่าการเลือกทานผักผลไม้ถือเป็นทางเลือกที่ดีแต่ถ้าหากว่าทำไม่ได้การทำน้ำดื่มผักผลไม้ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี

แต่ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำผักผลไม้อย่างเดียวก็ได้ลองเอาผักผลไม้ไปแปรรูปหรือไปลองทำอาหารอย่างอื่นดู แล้วจะรู้เลยว่าการทานผักผลไม้เข้าไปในร่างกายนั้นถือว่าเป็นเรื่องง่ายเป็นอย่างมาก เอางี้ไว้เราได้ลองทำอาหารสูตรใหม่ๆเพื่อบำรุงผิวแล้วจะมาแนะนำให้รู้ในคราวหน้าละกัน

ความต่างของ MATURE SKIN กับสิ่งควรรู้ของสาวออฟฟิศ

เมื่อว่างก็จัดให้ เพราะรอบที่แล้วเราก็น่าจะเข้าใจบางส่วนของผิวกันไปบ้างแล้ว ในเรื่องของผิวรูปแบบต่างๆที่สามารถที่จะแยกออกมาได้มากมาย ซึ่งเอาจริงๆตอนที่แล้วก็เพียงแค่คร่าวๆในเรื่องของผิวหน้า ซึ่งมั่นใจเลยว่ามีสาวๆหลายคนที่พยายามที่จะลองไปมองหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผิว แต่บอกไว้ก่อนว่าบางคนก็อาจจะหาไม่ได้ หรือว่าไม่มีเวลา ไม่ต้องกังวลเพราะจะรวบรวมเอาไว้ให้เอง

แต่ว่าก่อนอื่นจากที่ไปสืบทราบมา ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นวัยไหนๆก็รักที่จะดูแลผิวหน้ามากที่สุด ในส่วนของสาวๆวัยรุ่น วัยทำงาน ข้อมูลหรือวิธีดูแลอาจจะพอหากันมาได้บ้าง แต่ถ้าหากว่าเป็นสาวๆรุ่นใหญ่จะทำยังไง ถาหากว่าได้ไปอ่านบทความก่อนหน้านี้ จะเห็นในเรื่องของผิวผู้ใหญ่ ที่หลายๆคนอาจจะยังสงสัย

โดยในเรื่องของผิวผู้ใหญ่ ถ้าหากว่าใครที่รู้ลึกหรือเคยลองหาวิธีการดูแลกันมาบ้างอาจจะเจอในเรื่องของคำศัพท์ว่า “MATURE SKIN” ซึึ่งก็เป็นอีกหนึ่งคำที่หมายถึงผิวผู้ใหญ่นั่นแหละ และบอกไว้ก่อนเลยว่าถ้ามาหาข้อมูลผิวผู้ใหญ่แบบไทยๆ หายากมากเรียกว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ แต่ลองไปหาคำว่า MATURE SKIN ดูสิ พบผลลัพธ์ไม่น่าเชื่อเลยบอกเอาไว้ก่อน แต่ก็อาจจะวุ่นวายถ้าใครไม่เก่งภาษาอังกฤษจริงๆอ่ะนะ เพราะถึงแปลมาก็อาจจะต้องมานั่งทำความเข้าใจกันใหม่อยู่ดี

เอางี้เพื่อความง่ายต่อการทำความเข้าใจกับคำว่า MATURE SKIN หรือผิวผู้ใหญ่ ก็อธิบายให้เข้าใจกันได้ง่ายๆ ว่าผิวผู้ใหญ่ โดยเช่นเดียวกับที่บอกไปในบทความที่แล้ว นั่นก็คือหมายถึงผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ภายในตัวบำรุงก็มักจะถูกเติมมอยดจอร์ไรเซอร์ โดยสำหรับผู้หญิงที่มีผิวแบบMATURE SKIN จะถูกนิยามว่าเป็นผู้หญิงสูงอายุที่มีผิวแห้ง

เอ้า!!!สงสัยกันไหมละว่า MATURE SKIN กับ ผิวแห้ง มันจะไปแตกต่างกันอย่างไร

ไม่แตกต่าง!? แน่นอนว่าที่อ่านไม่ผิดหรอก ก็มันไม่แตกต่างจริงๆนะ เพราะคำว่า MATURE SKIN ถูกกำหนดขึ้นมาจากพวกอุตสาหกรรมด้านเครื่องสำอางค์และครีมบำรุงผิว จริงๆแล้วการที่เป็นผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ขึ้นไป ก็สามารถที่จะเป็นผิวแห้งได้ง่ายๆ แต่ถึงจะเป็นง่ายๆ ก็ใช่ว่าจะไปเป็นสะทุกคน

อย่างหนึ่งที่อาจจะไม่ทำให้ผู้หญิงผิวแห้งไปสะทุกคน คือ เกิดจากในเรื่องของกรรมพันธุ์ หรือถ้าหากว่ากรรมพันธุ์ไม่มีผล งั้นก็อาจจะปัจจัยสภาพแวดล้อมแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้งกังวลว่า 50 แล้วจะเป็นผิวแห้ง เพราะสาววัย 50 หลายๆคนก็มีผิวหน้ารูปแบบอื่นๆ เอาเป็นว่าถ้าอยากที่จะบำรุงผิว หรือ เลือกซื้อครีมที่เหมาะสำหรับการบำรุงดูแลผิวหน้า แนะนำเอาไว้ก่อนว่าเลือกตามผิวตัวเองดีที่สุด ไม่ต้องไปลือกซื้อแบบ MATURE SKIN หรอก ถ้าหากว่า 50 แล้ว ผิวหน้าไม่ได้เป็นไปอย่างที่นิยามบอกเอาตรงๆนะ เปลืองเงินฟรี

ออกนอกทะเลไปไกล มีอีกเรื่องหนึ่งสำหรับสาวๆที่ต้องการดูแลผิวก็ต้องทราบ ปัจจัยสภาพแวดล้อมที่ส่งผล อย่างที่บอกไปเมื่อกี้ จริงๆแล้วเปอร์เซนต์ความเป็นไปได้เทียบเท่ากับในเรื่องของกรรมพันธุ์เลยทีเดียว ในเรื่องของสภาพแวดล้อมที่สามารถส่งผลได้ มักจะเกิดจากมลพิษ หรือ มลภาวะต่างๆ แต่ต้องทำความเข้าใจในเรื่องของมลพิษก่อน

เพราะไปพูดถึงในเรื่องของมลพิษ เชื่อเลยว่าที่นึกออกส่วนใหญ่ก็เป็นควันของรถต่างๆ จะบอกให้ว่ามลพิษเป็นเพียงคำจำกัดความสั้นๆ จะเรียกว่าเป็นเซต ที่ภายในมีสับเซตเป็นสิบเลยก้ว่าได้ และแน่นอนว่ามีอีกหนึ่งสิ่งที่อยู่ในเซตมลพิษ ที่ส่งผลทำลายล้างแบบจัดเต็ม แสงแดด อย่างที่เข้าใจกันดีว่า ศัตรูสำคัญของผิวหน้า เพราะในแสงแดดมี รังสียูวี ที่อันตรายและสร้างปัญหามากมายให้เกิดขึ้นกับผิวหน้า

ยังมีหลายๆคนที่เถียงว่าไม่กลัว คิดผิด บอกคำนี้เลย เพราะสาวส่วนใหญ่มักจะเถียงว่าวันทั้งวันอยู่แต่ในอาคาร ไม่ค่อยได้ออกไปกลางแจ้ง ผิวหน้าไม่เสียหรอก บอกเลยว่าแม้อยู่ในอาคารผิวหน้าก็พังได้ เพราะนับเป็น 90% ที่รังสียูวี สามารถที่จะทะลุผ่านกระจกเข้ามาได้ ถือเป็นเรื่องจริงนะบอกไว้ก่อน

แต่ที่บอกสาวๆออฟฟิศเอาไว้ก่อน เพราะเชื่อไหม มีหลายคนไม่บำรุงและไม่ใช้ครีมที่มีSPF เพราะนึกว่าไม่เป็นอะไร แนะนำว่าทางที่ดี ถึงแม้จะอยู่แต่ในตัวอาคารก็หน้าพังได้ แต่จริงๆยังมีมลพิษอื่นที่ส่งผลอีกมากมาย รวมไปถึงอีกหนึ่งสิ่งที่สาวๆมักเข้าใจผิดเกี่ยวการใช้งานของคอมพิวเตอร์ที่ส่งผลเสียกับผิวหน้า

เอาไว้มาจะมาเฉลยรอบหน้าแล้วกันนะ เพราะเวลาของตอนนี้ไม่พอจริงๆ อ๋อ…เตือนไว้อีกเรื่องหนึ่งว่ามลพิษยังมีอีกมากมาย และส่งผลได้เยอะเช่นกัน ก็แนะนำว่าทางที่ดีควรจะรู้จักป้องกันเอาไว้ก่อน แต่ไว้เดี๋ยวจะมาบอกในเรื่องของเทคนิคการดูแลเด็ดๆ ที่สาวๆหรือคุณผู้หญิงอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว เราสามารถที่จะใช้เทคนิคเหล่านี้มาช่วย และในเรื่องของพฤติกรรมการใช้ชีวิต สาเหตุส่งผลหลักๆ เอาไว้รอบหน้าเดี๋ยวมาต่อเติมให้อีก

ช้าๆได้พร้าเล่มงามนะสาวๆ บ๊ายบาย

จะสวยได้ต้องเข้าใจผิวก่อน

ผิวของผู้หญิงถือเป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะในความเป็นจริงเรื่องที่ผู้หญิงทุกๆคนอยากที่จะสวยก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ และกลายเป็นสิ่งสำคัญ ตัวคุณด้วยใช่ไหมล่ะ?? ก็อย่างที่รู้เลยว่าความสวยของผู้หญิงสามารถที่จะส่งผลกับผู้หญิงได้ในหลายๆเรื่อง เอาจริงในเรื่องนี้ก็กลายเป็นสิ่งที่จะต้องทำให้ตระหนักได้แล้วว่าต้องหันมาหาวิธีดูแลตัวเอง สำหรับผู้หญิงในเรื่องของการดูแลตัวเอง ถือเป็นหนทางที่ยาวไกลพอสมควร

 

เพราะระหว่างระยะทางที่ต้องเดินผ่าน จะรู้เลยว่ามีวิธีมากมายที่จะช่วยในการดูแลตัวเอง ซึ่่งบางวิธีก็อาจจะเหมาะสมกับการดูแล แต่บางวิธีก็อาจจะไม่ปลอดภัยหากจะใช้เพื่อการดูแล โดยเฉพาะในเรื่องของผิวหน้าที่มีความสำคัญอย่างที่รู้กันตลอดว่าการเลือกใช้ Facial Care ถือเป็นตัวเลือกที่ยากพอสมควร เอาจริงๆผู้หญิงหลายๆคนยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตัวเองมีผิวหน้าแบบไหนกันแน่ ส่วนใหญ่ที่เคยได้ยินก็มีเพียงแค่ ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม แต่ในเรื่องของประเภทผิวหน้าถูกแยกออกมากมาย รวมไปถึงในเรื่องของการดูแลผิวหน้าแบบต่างๆก็จะถูกแบ่งออกไปหลายแขนง 

 

โดยในเรื่องของผิวหน้าส่วนต่างๆที่ถูกแบ่งออกไป ก็แยกออกมาได้ คือ ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย ผิวสำหรับผู้ใหญ่ (ซึ่งส่วนนี้คือผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ขึ้นไป) ผิวระคายเคือง ผิวผื่นพันธุกรรม ผิวไหม้แดด หลักๆก็จะถูกแบ่งไปตามนี้ สาวๆก็ควรที่จะเข้าใจรายละเอียดหรือรูปแบบก่อนว่า ผิวแต่ละแบบนั้นแตกต่างกันไปอย่างไร อยากรู้กันไหมละ???

 

เอาเป็นว่า ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวเป็นสิว อะไรพวกนี้ขอยังไม่อธิบายในตอนนี้เนอะ เพราะบางคนอาจจะเข้าใจกันมาบ้างแล้ว แต่อยากจะเสริมอะไรให้เข้าใจมากกว่านี้ รอบนี้ถ้าลองสังเกตุดีๆบางคนอาจจะเห็นความผิดปกติในเรื่องของ ผิวแพ้ง่าย กับ ผิวระคายเคือง จริงๆผิวสองรูปแบบนี้แตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็คือว่ามันใกล้เคียงกันใช่ไหมละ ใกล้เคียงจนอาจจะทำให้แยกไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าสรุปแล้วเป็นแบบไหนกันแน่!!!

 

งั้นทำความเข้าใจกันง่ายๆก่อนว่า ในเรื่องของผิวแพ้ มักจะเกิดมาจากพันธุกรรมสะเป็นส่วนใหญ่ แต่ส่วนน้อยก็อาจจะมาจากปัจจัยในร่างกาย คือเอาให้เห็นภาพง่ายๆเลยนะ ลองเปรียบเทียบกับของกิน ถ้าลองไปกินกุ้ง แล้วเกิดแพ้ ไม่ต้องสงสัยเลย เพราะแน่นอนว่าจะต้องมีคนในครอบครัวเป็นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นในเรื่องของอาการแพ้ก็น่าจะเข้าใจแล้วอย่างชัดเจน แต่ว่ายังสงสัยในเรื่องของผิวระคายเคืองอยู่ด้วยใช่ไหม

 

ซึ่งในเรื่องของผิวระคายเคืองก็ไม่ได้มีอะไรที่จะเข้าใจยากนักหรอก เพราะการที่จะเป็นผิวระคายเคืองได้ มักะต้องเจออะไรที่มากเกินความพอดี อย่างการเจอกรดหรือด่างใน Facial Cream ที่มากจนเกินไป ส่วนใหญ่การระคายเคืองที่เกิดขึ้นกับผิวมีความเกี่ยวเนื่องกับความเข้มข้นด้วย หรืออาจจะเคยได้ยินว่าก่อนที่จะใช้ครีมบำรุงให้ทดสอบก่อนว่าเกิดความระคายเคืองไหม เพราะบางทีก็อาจจะเผลอไปใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง ก็สามารถที่จะส่งผลในเรื่องนี้ได้เช่นกัน และทางที่ดีก็ควรที่จะระวังด้วย เพราะการที่ไปเจอสารที่ส่งผลเหล่านี้ แล้วพลาดไปใช้กับบริเวณที่เป็นผลอยู่ ก็สามารถที่จะทำให้แผลเหล่านั้นลุกลามไปมากกว่าเดิม  ถ้าหากว่าจะให้ดีก็แนะนำว่าให้หยุดใช้ครีมเหล่านั้น ซึ่งสามารถที่จะทำให้อาการเหล่านี้ทุเลาลงได้

 

เพราะส่วนใหญจะเป็นไปในเรื่องของ ผิวระคายเคืองมากถึง 80 %อาการแพ้จะมีอยู่แค่ 20% เท่านั้น!!

 

เพราะฉะนั้นก็มั่นใจแล้วว่าสาวๆก็น่าจะแยกกันออกบ้างแล้วว่าผิวแพ้ง่ายกับผิวระคายเคือง สรุปแล้วมีความแตกต่างกันยังไงบ้าง ซึ่งถ้าหากว่าเกิดปัญหาเหล่านี้แนะนำว่าให้ลองสังเกตุให้ดีก่อน โดยสำหรับวิธีสังเกตุก็ง่ายมากก็คือจะคันเพียงแค่บริเวณที่ผ่านการทาครีมเหล่านั้น ก็จะเป็นอาการของผู้ที่เป็นผิวระคายเคือง และอาการระคายเคืองและอาการแพ้ สามารถที่จะเกิดขึ้นได้พร้อมๆกัน

 

กลัวไหมละ?? จริงๆแล้วหลายๆคนพอรู้แบบนี้ก็เริ่มกังวล กลัวจะส่งผลต่อผิวหน้า แต่บอกเลยว่าไม่มีอะไรหรอก เพราะขอแค่รู้จักเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับผิวหน้า โดยจะต้องเป็นส่วนผสมที่ถูกกับผิวหน้าด้วย

 

และอยากจะบอกว่าครีมบำรุงผิวหน้า ทำเองก็ได้ ใช่ได้ยินไม่ผิดแน่นอนว่าในเรื่องของครีมบำรุงผิวหน้า ทำเองก็ได้เหมือนกัน แต่ในการที่จะทำเองก็ต้องรู้ก่อนว่าผิวหน้าตัวเองเป็นผิวหน้าชนิดไหน เพราะถ้าหากว่ารู้ว่าเป็นผิวหน้าชนิดไหน ก็จะรู้ว่าควรมีส่วนผสมอะไรบ้าง เนื่องจากว่าครีมบำรุงผิวหน้าแต่ละชนิดก็จะมีการเลือกใช้ส่วนผสมที่แตกต่างไปอีก และอาจจะไม่สามารถที่จะใช้ร่วมกันได้ เพราะจะทำให้บำรุงและดูแลไม่ทั่วถึง

 

เอาเป็นว่าสำหรับในตอนนี้ต้องแนะนำเอาไว้ให้เข้าใจก่อนว่าเรื่องผิวของสาวๆเรามีหลายแบบ รวมไปถึงในเรื่องของความแตกต่างของรูปแบบผิว ที่สาวๆบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ และถ้าหากว่าใครที่ยังอยากเข้าใจในเรื่องของผิวให้ดีมากกว่านี้ก็รอก่อนแล้วกันเนอะ เอาไว้ถ้ามีเวลาจะมาบอกข้อมูลเกี่ยวกับผิวที่สาวๆหลายๆคนยังไม่ทราบ รวมไปถึงถ้าอดใจรอกันได้จะมาบอกวิธีการทำครีมบำรุงผิวหน้าใช้เอง ของฟรีใครจะพลาดถูกไหม??

 

แล้วมาพบกันใหม่นะสาวๆ